วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มงคลสูตร

เนื้อเรื่อง

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงมงคลอันสูงสุด 38 ประการ ไว้ในมงคลสูตร ซึ่งเป็นพระสุตรสำคัญบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา มงคลสูตรปรากฏในพระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย หมวดขุททกปาฐะ
พระอานนทเถระได้กล่าวถึงที่มาของมงคลสูตรว่า ท่านได้ฟังมาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ณ เชตวันวิหาร กรุงสาวัตถี มงคลสูตรนี้เกิดขึ้นด้วยอำนาจคำถาม คือ พระพุทธเจ้าทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า มีเทวดาเข้ามาทูลถามพระองค์เรื่องมงคล เพราะเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นทั้งในหมู่เทวดาและมนุษย์ ที่มีลัทธิเรื่องมงคลแตกต่างกันเป็นเวลานานถึง 12 ปี ท้าวสักกเทวราชจึงทรงมอบหมายให้ตนมาทูลถาม พระพุทธองค์จึงตรัสตอบเรื่องมงคล 38 ประการ ต่อจากราตรีนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเรื่องมงคลนี้แก่พระอานนท์อีกครั้งหนึ่ง

ใจความสำคัญของมงคลสูตร
๑. ไม่คบคนพาล/๑. หนึ่งคือ บ่ คบคนพาล จะพาประพฤติผิด
๒. คบบัณฑิต/๒. หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล
๓. บูชาผู้ที่ควรบูชา/๓. หนึ่งกราบก่อนบูชา อภิปูชนีย์ชน
๔. อยู่ในประเทศอันสมควร/๔. ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี
๕. เคยทำบุญไว้กาลก่อน/๕. อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล
๖. ตั้งตนไว้ชอบ/๖. อีกหมั่นประพฤติควร ณ สภาวะแห่งตน
๗. สดับตรับฟังมาก/๗. ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
๘. มีศิลปะ/๘. อีกศิลปศาสตร์มี จะประกอบมนุญการ
๙. มีวินัย/๙. อีกหนึ่งวินัยอัน นักเรียนและเชี่ยวชาญ
๑๐.มีวาจาเป็นสุภาษิต/๑๐. อีกคำเพราะบรรสาน ฤดิแห่งประชาชน
๑๑.บำรุงมารดาบิดา/๑๑. บำรุงบิดามา-ตุระด้วยหทัยปรีย์
๑๒.สงเคราะห์บุตร/๑๒. หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
๑๓.สงเคราะห์ภรรยา/๑๓. หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
๑๔.การงานไม่คั่งค้างอากูล/๑๔. การงานกระทำไป บ่มิยุ่งและสับสน
๑๕.ให้ทาน/๑๕. ให้ทาน ณ กาลควร
๑๖.ประพฤติธรรม/๑๖. และประพฤติ สุธรรมศรี
๑๗.สงเคราะห์ญาติ/๑๗. อีกสงเคราะห์ญาติ ที่ปฏิบัติบำเรอตน
๑๘.ประกอบการงานไม่มีโทษ/๑๘. กอบกรรมะอันไร้ ทุษกลั้วและมัวมล
๑๙.เว้นจากบาป/๑๙. ความงดประพฤติบาป อกุศลบ่ให้มี
๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา/๒๐. สำรวมวรินทรีย์ และสุราบ่เมามล
๒๑.ไม่ประมาทในธรรม/๒๑. ความไม่ประมาท ในพหุธรรมะโกศล
๒๒.เคารพ/๒๒.เคารพ ณ ผู้ควร จะประณตและนอบศีร์
๒๓.สงบเสงี่ยมเจียมตัว/๒๓. อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้างและจองหอง
๒๔.ยินดีด้วยของของตน(สันโดษ) /๒๔. ยินดี ณ ของตน บ่มิโลภทะยานปอง
๒๕.รู้คุณท่าน/๒๕. อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน
๒๖.ฟังธรรมตามกาล/๒๖. ฟังธรรมะโดยกา-ละเจริญคุณานนท์
๒๗.อดทน /๒๗. มีจิตตะอดทน และสถิต ณ ขันตี
๒๘.ว่าง่าย/๒๘. อีกนัยหนึ่งบ่พึงมี ฤดิดื้อทะนงหาญ
๒๙.เห็นสมณะ/๒๙. หนึ่งเห็นคณาเลิศ สมณาวราจารย์
๓๐.สนทนาธรรมตามกาล/๓๐. กล่าวธรรมะโดยกาล วรกิจจะโกศล
๓๑.บำเพ็ญตบะ (ความเพียร)/๓๑. เพียรเผากิเลสล้าง มละโทษะยายี
๓๒. ประพฤติพรหมจรรย์/๓๒. อีกหนึ่งประพฤติดี ดุจะพรหมพิสุทธิ์สรรพ์
๓๓.เห็นอริยสัจ/๓๓. เห็นแจ้ง ณ สี่องค์ พระอรียสัจอัน
๓๔.ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน/๓๔. อีกทำพระนิพพา- นะประจักษะแก่ตน
๓๕.จิตไม่หวั่นไหวเมื่อต้องโลกธรรม/๓๕. จิตใครผิได้ต้อง วรโลกะธรรมศรี
๓๖.จิตไม่เศร้าโศก/๓๖. ไร้โศกธุลีสูญ
๓๗.จิตปราศจากธุลี/๓๗. ไร้โศกธุลีสูญ
๓๘.จิตเกษม(ปลอดโปร่งจากกิเลส) /๓๘. และสบายบ่มัวมล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น